จากบล็อค ของคุณเอกพงศ์ หัวเรื่อง เสนอแนะว่าน่าจะรวมระบบเว็บหน่วยงานใน สป. .......โดนมากๆๆๆ ซึ่งในฐานะที่รับหน้าที่ดำเนินการให้เกิดเว็บ สน. มาตั้งแต่ประมาณปี 2548 ด้วยการตะเกียกตะกายพยายาม(สังขารไม่ให้ แต่อาศัยความชอบส่วนตัว) โดยมี ศท.เป็นเหมือนพี่เลี้ยงจนถึงปัจจุบัน....สิ่งที่ได้กลายเป็นประสบการณ์ที่เกิดกับตัวเรา ทำให้คิดเป็นระบบ รู้จักเก็บรวบรวมและเผื่อแผ่ พยายามรบกวนคนอื่นให้น้อยที่สุด ทำไปตามหน้าที่ ทำเพื่อตอบว่าเรามี ซึ่งคิดว่าไม่เกิดประโยชน์กับส่วนรวมซักเท่าไร ยิ่งปัจจุบัน จะมีทั้ง web บูรณาการ web วมว. และ web อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด.......ลองเปิดดู web ของสำนัก/ศูนย์ อื่น...อิอิ ? หนักกว่าเราอีก คงเจอปัญหาเหมือนกัน.................ฉะนั้นในปี 55 ถึงเวลาแล้วหรือยังทีพวกเราชาว admin จะรวมตัวกันบูรณาการ website ต่าง ๆ ภายใต้ สป.วท. ให้เป็นระบบและเป็นเอกภาพ อะไรควรปิดก็ต้องปิด ข้อมูลใดที่สำคัญก็นำไปเก็บไว้ใน web ที่คิดว่าสำคัญและต้องดำรงคงไว้ เช่น web สป.วท. และ web km เพื่อลดภาระงาน ซ้ำซ้อนและซ้ำซาก ประหยัดงบประมาณแผ่นดิน แต่จะไปช่วยกันพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ ให้มันดียิ่งขึ้น ให้คนใน สป.หันมาสนใจและใช้ประโยชน์ จึงขอเสนอให้ ศท.โปรดรับเป็นเจ้าภาพการทำ KM ในหัวข้อ "การบูรณาการเว็บไซต์ต่าง ๆ ภายใต้ สป.วท.ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555" โดยมี admin ของสำนัก ศูนย์ กลุ่มต่าง ๆ เป็นคณะทำงาน (ตามภาพแผนงานที่แนบมาให้) ไม่รู้จะเป็นไปได้แค่ไหน! ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่.... คิดใหม่ หวังใหม่ ทำใหม่ เริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ เพื่อชีวิตใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม.......... admin สป.วท. สู้สู้
- ซื้อของออนไลน์โดนโกงต้องทำอย่างไร?
- Social the Series สิ่งที่ไม่ควรโพสต์ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ตอนที่ 3 อาจผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ตัวตนฉันอาจถูกขโมย
- Social the Series สิ่งที่ไม่ควรโพสต์ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ตอนที่ 2 อาจเกิดผลกระทบหรืออันตราย
- การจัดทำรายการ QR Code ใส่ในหนังสือราชการ
- Social the Series สิ่งที่ไม่ควรโพสต์ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ตอนที่ 1 ตัวตนฉันอาจถูกขโมย
- คลังความรู้ เรื่อง การจัดทำคู่มือการปฏฺิบัติงาน (Work Manual)
- คลังความรู้ เรื่อง ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2561
- Work from Home ยังไงให้ Secure
- พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิอะไรบ้าง
- รู้ทัน ป้องกันด้วยพาสเวิร์ด
ความคิดเห็น
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ผมในฐานะ จนท. ศท.จะนำไปพิจารณาในทางปฏิบัติครับ แต่อาจต้องเคลียร์ในแนวคิดเรื่องของการบูรณาการเว็บ จากที่อ่านในผังภาพ ผมอาจยังเข้าใจไม่ชัดนัก ผมพอสรุปได้ว่า
-เรื่องของข้อมูลในเว็บที่มีอยู่กระจัดกระจาย จึงอยากให้มีการป้อนจากที่เดียว และมีเว็บกลางเว็บหนึ่งอาจเป็นเว็บ KM ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์
ผมกำลังคิดในเรื่องของการเชื่อมโยงข้อมูลกันผ่านเทคนิคของ RSS Feed ทำให้เว็บกลางดูดข้อมูลจากเว็บอื่นๆ มาได้ โดยข้อมูลก็จะถูกแสดงอยู่ทั้ง 2 เว็บ แต่คนป้อนข้อมูลป้อนที่เดียว อันนี้พอจะมีประโยชน์หรือเปล่า แต่ก่อนทำก็ต้องคุยกับผู้ดูแลเว็บต่างๆ ส่วนทางเทคนิคก็ไม่น่าจะยากนัก ระบบที่เป็น CMS ต่างๆ จะ build-in มาแล้ว ยกเว้นระบบที่พัฒนาแบบ home-made
-เรื่องของคนที่เป็นผู้ดูแลเว็บแต่ละเว็บ ให้มาร่วมกัน แลกเปลี่่ยน ความคิดเห็น ความรู้ใหม่ๆ
การรวมคนตั้งคณะทำงานด้าน IT ของ สป. เป็นความคิดที่ดีมากครับ แต่ถ้าให้เป็นทางการนี่ขอไปศึกษาก่อนครับ จริงๆแล้วมันมีคณะทำงานด้าน IT หนึ่งที่อยู่ภายใต้ PMQA แต่จะไม่ใช่คนทางเทคนิคทั้งหมดซึ่งคุยในเชิงนโยบายได้ ผมมองว่าจะตั้งคณะย่อยภายใต้คณะนั้น แต่ก็ไม่ได้ เพราะคณะนั้นไม่มีอำนาจในการตั้ง
สำหรับการทำ COP ก็ดีครับ แต่ต้องอาศัยคนที่ active มาเป็นผู้นำ อย่างพี่นี เป็นต้น ผมมองว่าอาจใช้ช่องทางของ Web Board/Forum ให้มากขึ้นด้วย ก็ได้นะครับ คุยกันผ่านเว็บเนี่ย ว่างก็เข้ามา post มาตอบ อันนี้ให้คุณเอก เป็นผู้นำ
ตอนนี้ผมกำลังจะทำ directory ของเว็บไซต์และระบบโปรแกรมของ สป. โดยจะวางไว้บนเว็บ KM และให้เจ้าของระบบสามารถมาป้อน/แก้ไขข้อมูลเองได้ด้วย อาจมีประโยชน์บ้าง
ขอบคุณในแนวคิดดีๆ เดี๋ยวผมจะช่วยสานฝัน(สลาย)ให้ 555
ขอเป็นอาสา
อย่าให้ผมเป็นผู้นำเลยครับ คิดซะว่าเป็นอาสาสมัครดีกว่า หลายคนอาจจะมองว่าการเข้ามาเขียน มาเล่าต้องมานั่งเสียเวลาในการทำงาน งานไม่มีหรือ ถึงได้มีเวลามานั่งเขียน ๕๕๕๕
ผมพยายามทำให้ km เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน ไม่ว่า จะเป็น true KM หรือ false KM ก็ตาม เพราะผมมองว่า อะไรที่เป็นข้อผิดพลาด สิ่งนั้นกำลังบอกให้เรามองหาโอกาสในการพัฒนา ส่วนสิ่งใดที่ทำแล้วดีอยู่แล้วก็ควรแบ่งปันให้คนอื่นได้รู้
มาร่วมมือกันครับ
ขอแก้ไข
เปลี่ยนจากคณะทำงาน มาเป็นคนทำงาน ......เพราะการทำ KM จะประสบความสำเร็จได้ต้องเกิดจากการระดมความคิดแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้ปฏิบัติงานจริง โดยการนำปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ มาวิคราะห์หาแนวทางปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น แล้วนำไปเผยแพร่ให้บุคคลอื่นรับทราบ ตามช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ (ไม่จำเป็นต้องเป็นทางการ....ยิ่งเป็นทางการมากก็ยิ่งไม่ได้ข้อมูลที่แท้จริง) อาจใช้เวลาสั้นๆ หลังเลิกงาน เหมือนการคุยปรึกษาหารือ (ถ่ายรูปเก็บเป็นหลักฐานซะหน่อย) ในเวที CoP ต้องมีการเปรียบเทียบข้อมูลก่อนทำ-หลังทำ ดีขึ้นกว่าเดิม/เกิดประโยชน์อย่างไร (อาจใช้เทวีที่ ศท.ไปจัดสัมมนา ตจว.) ,,,,,,,KM ทำได้หลายอย่าง เช่น เรื่องที่เกิดปัญหาเร่งด่วน เรื่องที่ต้องการปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น หรือเกิดจากการเชิญผู้รู้มาบรรยายเล่าสู่กันฟัง ......ตอนนี้อยู่ระหว่างหารือกับ ทปษ. จะทำ KM เรื่อง "ธรรมะกับวิทยาศาสตร์เกี่ยวกันอย่างไร" โดยจะนิมนต์พระมาบรรยาย สอดแทรกธรรมะที่ใช้กับชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นสิริมงคลกับบุคลากร สป.วท.ในปี สองฮ่าฮ่าฮ่า .....เผื่ออะไรๆ จะดียิ่งขึ้น ..การทำ KM ก็เหมือนกับการสร้างกุศลโดยการบริจาคความรู้....รูปแบบการจัดงานจะไม่ใช้ งปม. จะขอบริจาคจากผู้มีจิตศรัทรา
พร้อมเมื่อไรจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วๆ กัน....สาธุ (พี่ไม่กลัวฝันสลาย ....แต่พี่กลัวเพ้อเจ้อ แฮะแฮะ)
"ธรรมะกับวิทยาศาสตร์เกี่ยวกันอย่างไร" น่าสนใจ
"ธรรมะกับวิทยาศาสตร์เกี่ยวกันอย่างไร"
เป็นหัวข้อที่น่าสนใจครับ ผมเคยอื่นหนังสือเล่มหนึ่ง ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น เป็นหนังสือที่น่าสนใจครับ ลองหามาอ่านดู ประมาณว่า ไอน์สไตน์ ศึกษาความจริทางโลก แต่พระพุทธเจ้าศึกษาทางธรรม แต่ทั้ง 2 ท่าน มีจุดประสงค์เดี่ยวกัน ไปหาเองครับว่าอะไร
นี่แหละนักพัฒนาตัวจริง
มาให้กำลังใจและสนับสนุนความคิด พอได้เข้าไปอ่านที่ powerpoint ได้เห็นกรอบความคิด กระบวนการทคิด การทำงานที่เป็นระบบ system thinking มากขึ้น คงได้มาจากพื้นฐานที่อยู่ สน เก่า นะครับ
เห็นด้วยและคงต้องหาแนวทางในการพัฒนากันต่อไป ครับ